ดื่มไวน์ พร้อมมื้ออาหาร ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน

ดื่มไวน์ พร้อมมื้ออาหาร ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน

แม้ว่าการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้อ้วน และเป็นสาเหตุการเกิดโรคเบาหวาน แต่นั่นหมายถึงแอลกอฮอล์ที่มีแคลอรีสูงอย่างเบียร์ ที่จะทำให้เกิดการสะสมของไขมัน ต่างกับ “ไวน์” ที่หากกินพร้อมกับมื้ออาหารอาจช่วยลดความเสี่ยงโรคเบาหวานได้ 

 

ไวน์เป็นการหมักเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากองุ่น ซึ่งไวน์แต่ละประเภทจะใช้ชนิดองุ่นที่แตกต่างกัน เช่น ไวน์แดงผลิตจากเมล็ดองุ่นแดง เปลือก ขั้วองุ่น รวมถึงเมล็ด ส่วนไวน์ขาว ทำมาจากเนื้อองุ่นสีเขียวเพียงอย่างเดียว โดยจะใช้ยีสต์ทำปฏิกิริยากับน้ำตาลจากน้ำองุ่น แล้วเกิดแอลกอฮอล์ขึ้นตามธรรมชาติ 

 

การจิบไวน์แดง 1 แก้วพร้อมมื้ออาหารช่วยลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานได้อย่างไร

ในไวน์มีสาร ไพซีแทนอน (Piceatannol) สารต้านอนุมูลอิสระที่อาจช่วยลดการสะสมของไขมัน และควบคุมระดับน้ําตาลในเลือด วึ่งเป็นเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน สามารถช่วยควบคุม ระดับน้ำตาลในเลือดได้ โดยการกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน นอกจากนี้ ยังช่วยกระตุ้นโปรตีนที่ช่วยควบคุมความไวของกลูโคสและอินซูลิน

 

จากการศึกษาในปี 2548 มีรายงานว่า การดื่มไวน์แดงเป็นเวลา 2 สัปดาห์ จะทำให้ความต้านทานต่ออินซูลินลดลงอย่างเห็นได้ชัด ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 โดยไม่กระทบต่อการเกิดปฏิกิริยาของหลอดเลือด

 

ปริมาณที่ควรดื่ม

แต่การดื่มในปริมาณที่มากเกินไปก็ก่อให้เกิดโทษได้เช่นกัน ดังนั้นควรดื่มในปริมาณที่พอเหมาะเท่านั้นถึงจะเกิดประโยชน์ และปริมาณที่แนะนําคือ ผู้ชายควรดื่มไม่เกิน 2 หน่วย และผู้หญิงไม่เกิน 1 หน่วยบริโภคต่อวัน โดยปริมาณบริโภคต่อหน่วยนั้นจะขึ้นอยู่กับปริมาณแอลกอฮอล์ ยิ่งแอลกอฮอล์สูง ปริมาณการดื่มก็จะลดลง

 

***การดื่มแอลกอฮอล์ 1 หน่วย หมายถึง ไวน์ที่มีแอลกอฮอล์ 12% = 150 มิลลิลิตร

 

ดื่มไวน์มากเกินไปส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร

การดื่มไวน์ในปริมาณมากเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ ดังนี้

  • ติดสุรา การดื่มไวน์หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดอื่น ๆ มากจนเกินไป อาจทําให้ไม่สามารถควบคุมตนเอง และปริมาณในการดื่มได้ จนอาจเกิดอาการติดสุรา
  • น้ําหนักตัวเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากไวน์มีแคลอรี่มากกว่าเบียร์ และน้ําอัดลมถึง 2 เท่า ดังนั้นการดื่มไวน์มาก
    เกินไปจึงอาจทําให้น้ําหนักตัวเพิ่มขึ้นได้
  • เสี่ยงเกิดโรค การดื่มไวน์ประมาณ 2-3 แก้ว/วัน จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคตับและตับแข็งซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ และหากดื่มไวน์ 1-3 ครั้ง/สัปดาห์ หรือดื่มในปริมาณมากเกินไป อาจเพิ่มความเสี่ยงโรคเบาหวาน โรคซึมเศร้า และนําไปสู่การเสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้

 

อย่างไรก็ตาม การดื่ดื่มไวน์ พร้อมมื้ออาหารเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานได้ แต่หากเราไม่ดูแลจัวเอง ปล่อยให้มีไขมันสะสมในร่างกาย และในช่องท้องจำนวนมาก ก็จะทำให้มีดอกาสเกิดเบาหวานได้ง่ายขึ้น

 

กำจัดไขมันในช่องท้องได้อย่างไร

Indiba นวัตกรรมของ Proionic เป็นเทคโนโลยีการแพทย์จากสเปน โดยระบบการรักษาจะใช้คลื่นความถี่วิทยุเดียวที่ 448 kHz มาฟื้นฟูถึงระดับเซลล์ ซึ่งเป็นหน่วยโครงสร้างและการทำงานที่เล็กที่สุดของสิ่งมีชีวิต ทำให้เซลล์ไขมันฝ่อตัวลง “ลดไขมันใต้ชั้นผิวหนังและไขมันในช่องท้อง” เพิ่มการเผาผลาญลึกถึงระดับเซลล์ เพิ่มการไหลเวียนเลือด กำจัดของเสียออกจากเซลล์ เพิ่มระดับออกซิเจนในเนื้อเยื่อและเซลล์ ยับยั้งการสร้างเซลล์ไขมัน กระชับผิวที่หย่อนคล้อย กระชับสัดส่วน

 

👉ปรึกษาลดไขมันในช่องท้องทัก

𝐂𝐎𝐍𝐓𝐀𝐂𝐓 𝐔𝐒

𝐓𝐞𝐥 : 080-5000-123

𝐋𝐢𝐧𝐞 : https://line.me/ti/p/%40APEXslim

𝐅𝐚𝐜𝐞𝐛𝐨𝐨𝐤: https://www.facebook.com/ApexSlim

𝐖𝐞𝐛𝐬𝐢𝐭𝐞 : https://www.apexslim.com/



MAKE AN APPIONTMENT