
ต้องรู้!! ก่อนกินเวย์โปรตีนลดน้ำหนัก
ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เวย์โปรตีนขายตามท้องตลาดมากมาย ซึ่งได้รับความนิยมในการทานเพื่อลดน้ำหนักควบคู่ไปกับการออกกำลังกายเพื่อช่วยเสริมสร้างการสร้างกล้ามเนื้อ แต่อีกด้านหนึ่งมักจะพบว่าหลายคนเลือกทานเวย์โปรตีนเพื่อเพิ่มน้ำหนัก แล้วความจริงโปรตีนสามารถลดน้ำหนักได้จริงไหม? ทานแล้วอ้วนหรือเปล่า? วันนี้เราจะพาทุกคนไปหาคำตอบกัน
เวย์โปรตีน (Whey Protein) เป็นโปรตีนที่ได้จากกระบวนการผลิตชีสแข็ง โดยการใส่แบคทีเรียที่ไม่เป็นผลเสียกับร่างกาย หรือการใช้เอนไซม์เรนนิน (Rennin) ลงไปในน้ำนมวัว ปกติแล้วน้ำนมจะประกอบไปด้วยโปรตีนอยู่ 2 ประเภท คือ เคซีนโปรตีนและเวย์โปรตีน เมื่อใส่แบคทีเรียลงไปจะทำให้เคซีนโปรตีน (Casein) แยกตัวออกมาตกตะกอน มีสีขาวข้นคล้ายโยเกิร์ต
อีกส่วนหนึ่งที่เป็นของเหลวเรียกว่า เวย์โปรตีน (whey) ซึ่งส่วนนี้เราจะนำมาสกัดคาร์โบไฮเดต ไขมันและแร่ธาตุอื่นๆ ออกไป เพื่อให้ส่วนที่เหลือเป็นโปรตีนเพียวๆ จากนั้นจะนำมาผ่านกระบวนการทำให้เป็นผงโปรตีนเข้มข้นสามารถละลายในน้ำได้ เพื่อให้สามารดื่มและดูดซึมได้ง่ายขึ้น
เวย์โปรตีนมีกี่ประเภท
- คอนเซนเทรท : Whey Protein Concentrate (WPC)
เวย์โปรตีนชนิดนี้ผ่านการกรองแบบ Ultra Filtration หรือกระบวนการอื่นๆ เพื่อทำการแยกแลคโตสและไขมันที่มีผสมอยู่จำนวนมากออกไป จากนั้นนำเข้าสู่กระบวนการในการทำให้แห้ง มีความเข้มข้นของโปรตีนอยู่ประมาณ 70-80% ต่อปริมาณของผงเวย์โปรตีน มีลักษณะเป็นผงสีครีมอ่อน มีกลิ่นและรสชาติเหมือนนมผงทำให้รู้สึกทานค่อนข้างง่าย
- ไอโซเลต : Whey Protein Isolate (WPI)
เวย์โปรตีนชนิดนี้ได้มาจากการนำเวย์โปรตีนคอนเซนเทรท (WPC) มาผ่านกระบวนการ Ion Exchange (IE) หรือ Cross Flow Microfiltration (CFM) เพื่อแยกแลกโตสและไขมันที่ยังคงมีผสมอยู่บ้างออกไป ด้วยกระบวนการ IE คือการใช้วิธีแยกโมโลกุลของสารออกจากกันโดยใช้ประจุไฟฟ้า ซึ่งทำให้ได้เวย์โปรตีนเพียวมากขึ้น ทำให้มีความเข้มข้นของโปรตีนสูงขึ้นไปอีก 90-99% เลยทีเดียว
แต่กระบวนการอย่าง CFM นั้นจะใช้ตัวกรองที่ทำมาจากเซรามิก โดยกระบวนการนี้จะทำให้ได้ปริมาณโซเดียมน้อยกว่าเวย์โปรตีนที่ผ่านกระบวนการ IE และเวย์โปรตีนชนิดนี้จะมีราคาแพงกว่าเวย์โปรตีนคอนเซนเทรท เวย์โปรตีนไอโซเลตมีลักษณะเป็นผงสีครีมอ่อน มีกลิ่นและรสเป็นธรรมชาติแบบนม แต่จะทานยากกว่าแบบแรก
- ไฮโดรไลซ์ : Hydrolyzed Whey Protein (HWP)
เป็นการนำเวย์โปรตีนแบบคอนเซนเทรทหรือแบบไอโซเลทมาผ่านกระบวนการไฮโดรไลซ์ ทำให้โมเลกุลของเวย์โปรตีนที่มีขนาดใหญ่ เล็กลงจนเป็นเปปไทด์ โปรตีนจึงบริสุทธิ์สูงถึง 100% ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านการย่อย ทำให้คนที่ทานเวย์โปรตีนชนิดนี้มีโอกาสแพ้โปรตีนน้อยมาก โดยทั่วไปจะนิยมนำไปผสมกับเวย์โปรตีนชนิดอื่นๆ เพื่อเพิ่มความเข้ม โดยจะผสมประมาณ 20 % เท่านั้น เพื่อไม่ให้เวย์โปรตีนมีรสชาติขมและทานยากขึ้น
เวย์โปรตีนลดน้ำหนักได้จริงไหม
โปรตีนเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกาย ประกอบด้วยกรดอะมิโน (Brached Chain Amino Acid) ที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นเองได้ครบทั้ง 20 ชนิด และกรดอะมิโนที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้อีก 8 ชนิด ซึ่งกรดอะมิโนตัวนี้จะเพิ่มระดับ Growth Hormone เพิ่มการสังเคราะห์โปรตีนและไกลโคเจนให้กับร่างกาย ทำให้สามารถช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
เนื่องจากเป็นเวย์โปรตีนบริสุทธิ์ที่ไม่มีส่วนประกอบของไขมันและสามารถช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้ จึงมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักได้จริง เพราะว่ากล้ามเนื้อที่โปรตีนสร้างขึ้นจะสามารถระตุ้นการเผาผลาญไขมันซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้
ถ้าไม่ออกกำลังกาย น้ำหนักลดไหม
ในขณะที่ออกกำลังกายร่างกายจะทำการเผาผลาญโปรตีน หากเราทานโปรตีนในปริมาณที่ไม่เพียงพอก็จะทำให้มวลกล้ามเนื้อลดลงได้ ในทางกลับกันหากทานเวย์โปรตีนแต่ไม่มีการออกกำลังกาย ร่างกายก็จะเกิดการเผาผลาญพลังงานได้น้อย ส่งผลให้น้ำหนักอาจจะคงที่หรือลดลงช้าไปด้วย
เวย์โปรตีนทานแล้วอ้วนจริงไหม
หากกินเวย์โปรตีนในปริมาณมากและไม่มีการออกกำลังกาย นอกจากจะลดน้ำหนักได้น้อยแล้ว ยังอาจส่งผลทำให้น้ำหนักขึ้นได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นควรรับประทานในปริมาณที่พอดีต่อร่างกายจะดีกว่า
การทานเวย์โปรตีนเพื่อลดน้ำหนักให้ได้ผลดี คือ การทานควบคู่ไปกับการออกกำลังกายและกำหนดปริมาณการกินที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้ได้โปรตีนเกินความจำเป็นของร่างกาย แต่หากใครต้องการที่จะลดน้ำหนักและสร้างกล้ามเนื้อไปพร้อมๆ กัน ด้วยวิธีเดียวและได้ผลดี ไม่ต้องเหนื่อยออกกำลังกาย เราแนะนำ Emsculpt เทคโนโลยีหนึ่งเดียวในปัจจุบันที่สามารถกำจัดไขมันควบคู่กับการสร้างกล้ามเนื้อ ใช้เวลาเพียง 30 นาที ไม่ผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เปลี่ยนแปลงทันทีหลัง
Emsculpt ทำงานโดยการใช้เทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแบบเฉพาะเจาะจง High-In Tensity Focused Electro-Magnetic (HIFEM) ส่งพลังงานเข้าถึงชั้นกล้ามเนื้อและไขมันใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อกระตุ้นให้กล้ามเกิดการหดเกร็งถึง 20,000 ครั้งต่อการทำทรีตเมนต์ 30 นาที เทียบเท่ากับการยกเวทหนักๆ แล้วทำ Sit up ไปด้วยพร้อมๆ กัน 20,000 ครั้ง ซึ่งในความเป็นจริงเราแทบจะไม่สามารถออกกำลังกายแบบนี้ได้เลย
Emsculpt ควรทำ 2 ครั้งต่อสัปดาห์และสามารถทำทรีตเมนต์เพียง 4-6 ครั้งเท่านั้น จะได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว ส่งผลให้รูปร่างกระชับ มีกล้ามเนื้อหน้าท้องและซิกแพค พร้อมๆ กับการเผาผลาญไขมันและการทำลายเซลล์ไขมัน
APEX SLIM ประสบการณ์กว่า 25 ปี โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเครื่อง EmSculpt จากประเทศอังกฤษด้วยเทคโนโลยี HIFEM นวัตกรรมแรกและนวัตกรรมเดียวที่มีงานวิจัยมากที่สุดถึง 20 งานวิจัยว่ารองรับ Build Muscle & Claim Fat