หยุด!! โยโย่ เอฟเฟกต์ โดยไม่มีอะไรกั้น

หยุด!! โยโย่ เอฟเฟกต์ โดยไม่มีอะไรกั้น

หุ่นในฝันของคุณผู้หญิงหลายคนที่ต้องการจะมีหน้าท้องแบนราบ เอวเอส ไร้ไขมันส่วนเกิน กลายเป็นความผิดหวังที่เกิดขึ้นซ้ำๆ เมื่อเราพยายามทุกวิถีทางเพื่อที่จะมีหุ่นดีด้วยการลดน้ำหนัก แต่เมื่อน้ำหนักลดลงได้ไม่นานกลับเกิดอาการ “โยโย่ เอฟเฟกต์” จนน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งปัญหานี้คงทำให้หลายคนหนักใจไม่น้อย แต่ไม่ต้องเป็นกังวลอีกต่อไปเพราะ โยโย่ เอฟเฟกต์ สามารถจัดการได้

 

โยโย่เอฟเฟกต์คืออะไร

โยโย่เอฟเฟกต์ (YOYO Effect) เป็นคำจำกัดความของอาการเหวี่ยงขึ้นๆ ลงๆ ของน้ำหนักตัวอย่างรวดเร็ว คล้ายกับการเหวี่ยงของลูกดิ่งหรือโยโย่ จึงเรียกอาการนี้ว่า “โยโย่เอฟเฟกต์” ซึ่งเป็นผลมาจากการลดน้ำหนักที่ผิดวิธี หรือการใช้ยาลดน้ำหนัก ทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ต่ำลง อีกทั้งพลังงานที่ถูกนำไปเผาผลาญไม่หมดนั้นจะไปสะสมในร่างกายจนทำให้อ้วนขึ้นอย่างรวดเร็ว หรืออ้วนขึ้นมากกว่าก่อนเริ่มลดน้ำหนักเสียอีก

 

หยุดปัญหาโยโย่ เอฟเฟกต์ โดยไม่มีอะไรกั้น

  1. ห้ามอดอาหาร 

การอดอาหารจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ จนเกิดการขาดแคลอรี่มากเกินไป ส่งผลให้ระบบการเผาผลาญทำงานได้ต่ำลง แม้การอดอาหารจะทำให้จะทำให้ไขมันหายไปบางส่วน แต่กล้ามเนื้อจะหายตามไปด้วย จึงทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

  1. ลดของหวาน

อาหารหวานจะมีน้ำตาลผสมอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อร่างกายไม่สามารถเผาผลาญได้หมด น้ำตาลส่วนเกินเหล่านี้จะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันและเก็บไว้ในส่วนต่างๆ ของร่างกายทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นไปอีก หากอยากกินอาหารรสหวานให้ลองเปลี่ยนมาใช้สารให้ความหวานอื่นๆ ที่มีแคลอรี่ต่ำจากธรรมชาติ เช่นหญ้าหวาน

หญ้าหวาน เป็นพืชตระกูลเดียวกับกระเพรา เมื่อตอนเป็นใบสดๆ จะให้ความหวานมากกว่าน้ำตาล 25 เท่า แต่เมื่อสกัดออกมาแล้วจะให้ความหวานมากกว่าน้ำตาล 200-300 เท่าเลยทีเดียว ไม่จำเป็นต้องใส่ในปริมาณที่มากก็ให้รสชาติที่หวานแล้ว และที่สำคัญหญ้าหวานยังให้พลังงาน 0 แคลอรี่ ไม่ต้องกังวลเรื่องอ้วนเลย

 

  1. กินโปรตีน

โปรตีนสามารถช่วยเร่งการเผาผลาญของพลังงานในแต่ละวันเพิ่มขึ้น 80-100 แคลอรี่ และยังช่วยทำให้อิ่มท้องนาน ไม่ทำให้หิวบ่อย นอกจากนี้ยังสามารถเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ที่สำคัญกล้ามเนื้อนี่เองยังสามารถช่วยเร่งการเผาผลาญได้อีกด้วย โดยควรเลือกกินโปรตีนที่มีไขมันน้อย เช่น เนื้อไม่ติดมัน อกไก่ เนื้อปลา ไข่ไก่ เพื่อหลีกเลี่ยงการรับไขมันเข้าไปสะสมในร่างกายเพิ่ม

 

  1. ออกกำลังกาย

การออกกำลังกายสามารถกำจัดไขมัน เร่งการเผาผลาญพลังงาน กระตุ้นให้ร่างกายได้ใช้กล้ามเนื้อในการเผาผลาญไขมัน สามารถออกกำลังกายได้เองที่บ้าน ไม่จำเป็นจะต้องไปเข้าฟิตเนส หรือเสียคอร์สออกกำลังกายแพงๆ อีกต่อไป โดยการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก ลดสัดส่วนที่ได้รับความนิยม คือ การคาร์ดิโอ ในระดับความเข้มข้นตั้งแต่เดิน วิ่ง ว่ายน้ำ ซิทอัพ 

 

  1. นอนหลับให้เพียงพอ 

การนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอช่วยฟื้นฟูร่างกายและระบบต่างๆ ให้ทำงานได้ปกติ ช่วยทำให้ระบบการเผาผลาญพลังงานทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และยังทำให้ไม่รู้สึกหิวบ่อยๆ เนื่องจากไม่มีการหลั่งฮอร์โมนที่กระตุ้นความอยากอาหาร โดยปกติแล้วเราควรนอนหลับพักผ่อนอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน

 

อาการโยโย่ เอฟเฟกต์ จะไม่ได้ทำให้ระบบเผาผลาญทำงานแย่ลง ไม่ได้ทำให้สะสมไขมันง่ายขึ้น และไม่ได้ทำให้ลดน้ำหนักยากขึ้นด้วย หากเราเลิกอดอาหารเพื่อลดน้ำหนัก กลับมาดูแลหุ่นตามบทความข้างต้น ไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไป หยุดอ้วนที่ต้นเหตุ ตัวช่วยที่จะไม่ทำให้เกิดโยโย่ เอฟเฟกต์ โดยศูนย์ลดน้ำหนัก Apex Slim มีแพทย์เฉพาะทางที่เชี่ยวชาญในด้านการลดน้ำหนักโดยเฉพาะ และเป็นศูนย์รวมเทคโนโลยีทันสมัยระดับโลกในการลดน้ำหนักและสัดส่วนที่มีจำนวนเครื่องมือมากที่สุด

 

โปรแกรมลดน้ำหนัก เปปไทด์ลดหิว

 

โปรแกรมลดน้ำหนักที่ Apex Slim ใช้การผสมผสานการรักษา โดยมีเทคโนโลยีล่าสุดอย่าง “เปปไทด์ลดหิว” สารโปรตีนสกัดเลียนแบบฮอร์โมน ซึ่งจะทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว ลดความรู้สึกหิวและความอยากอาหาร จึงช่วยให้ควบคุมอาหารได้ง่ายขึ้น ลดน้ำหนักที่ต้นเหตุ ไม่ต้องเสี่ยงออกกำลังกายหนักแบบหักโหม

ซึ่งการควบคุมอาหารเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการลดน้ำหนักถึง 80% ใช้ต่อเนื่องเพียง 4 เดือน น้ำหนักลดลง 5 – 10%  และสามารถหยุดการใช้ได้เมื่อลดน้ำหนักได้เป็นที่พอใจ โดยไม่มีโยโย่เอฟเฟกต์เหมือนกับยาลดน้ำหนักแบบเดิม

อยากเปลี่ยนพร้อมปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้ที่นี่

Tel : 095-102-8585

LINE : https://line.me/ti/p/%40APEXslim

FB INBOX : http://m.me/apexslim

FB Page : https://www.facebook.com/ApexSlim



MAKE AN APPIONTMENT