
ออกกำลังกายลดน้ำหนักอย่างไร ไม่ให้เสียมวลกล้ามเนื้อ
ออกกำลังกายลดน้ำหนักนอกจากเราจะควรให้ความสนใจเกี่ยวกับน้ำหนักที่ลดลง สัดส่วนที่กระชับขึ้นแล้ว ควรให้ความสนใจมวลกล้ามเนื้อที่สูญเสียไปด้วยเช่นกัน เพื่อไม่ให้การออกกำลังกายลดน้ำหนักของเราสูญเปล่า เราจึงรวบรวมวิธีการออกกำลังกายลดน้ำหนักอย่างไร ไม่ให้เสียมวลกล้ามเนื้อมาฝากกัน
ข้อเสียของการเสียมวลกล้ามเนื้อ
ยิ่งร่างกายมีมวลกล้ามเนื้อมากเท่าไหร่ ก็จะเป็นตัวช่วยให้เผาผลาญไขมันส่วนเกินในร่างกายมากเท่านั้น ไม่เพียงเท่านั้น การเสียมวลกล้ามเนื้อก็อาจจะทำให้การลดน้ำหนัก กระชับสัดส่วนของเราไม่ประสบผลสำเร็จ และอ้วนขึ้นได้อีกด้วย
- กินอาหารให้เพียงพอก่อนและหลังออกกำลังกาย
การกินอาหารทั้งก่อนและหลังการออกกำลังกายจะช่วยทำให้เราสามารถกำจัดไขมันส่วนเกินออกได้โดยที่ไม่สูญเสียกล้ามเนื้อ โดยก่อนและหลังการออกกำลังกายควรกินโปรตีนไขมันต่ำให้มากขึ้น เช่น เนื้อปลา, อกไก่, สันในไก่, เนื้อแดงไม่ติดมัน, ถั่วฝักยาว, เต้าหู้ และกุ้ง เป็นต้น โดยควรได้รับอย่างน้อย 46 กรัม หากน้อยกว่านี้ก็จะทำให้มวลกล้ามเนื้อมีโอกาสที่จะลดลงได้
- ลดการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ
การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอในช่วงที่ต้องการลดไขมันส่วนเกิน เป็นสิ่งที่ไม่ควรจะหักโหมมากเกินไป ถึงแม้ว่าจะช่วยให้เผาผลาญแคลอรีได้เร็วขึ้น แต่ก็จะส่งผลทำให้สูญเสียมวลกล้ามเนื้อได้เช่นเดียวกัน เพราะเมื่อคุณออกกำลังกายอย่างหักโหมมากเกินไปคุณก็จะต้องรับประทานมากขึ้นเพื่อนำพลังงานไปทดแทนและฟื้นฟูร่างกาย ดังนั้นควรหันมาออกกำลังกายแบบเบา ๆ แต่ทำอย่างสม่ำเสมอจะดีกว่า ถึงแม้ว่าจะให้ผลช้ากว่าการออกกำลังกายแบบหนักหน่วง แต่ก็ทำให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วกว่าค่ะ
- ออกกำลังกายด้วยการโหนบาร์
คนส่วนใหญ่มักมีความเชื่อผิด ๆ ว่าการโหนบาร์ หรือการยกน้ำหนัก ไม่ได้ช่วยเบิร์นไขมันออกจากร่างกายได้ จึงไปหักโหมออกกำลังกายด้วยวิธีอื่นที่ทำให้เบิร์นไขมันได้ และละเลยการรักษากล้ามเนื้อให้ยังคงแข็งแรง ทั้ง ๆ ที่จริงแล้วการโหนบาร์และยกน้ำหน้กเป็นการออกกำลังกายที่จะช่วยทำให้คุณสามารถเบิร์นไขมันได้โดยไม่สูญเสียมวลกล้ามเนื้อตามไปด้วย นอกจากนี้ยังช่วยทำให้กล้ามเนื้อของเราแข็งแรงมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งการรักษากล้ามเนื้อของเราให้ยังแข็งแรงในช่วงที่กำลังลดปริมาณไขมันส่วนเกินจะช่วยทำให้เรามีสุขภาพที่แข็งแรง
- ลดความถี่และความเข้มข้นในการเล่นเวตเทรนนิ่งลง
ถึงแม้ว่าการการยกน้ำหนักจะช่วยเบิร์นไขมันส่วนเกินออกไปได้แบบไม่สูญเสียมวลกล้ามเนื้อ แต่ในช่วงลดน้ำหนักก็ไม่ควรจะเล่นเวตเทรนนิ่งให้หนักจนเกินไป และควรจะลดความถี่ในการเล่นเวตเทรนนิ่งลง เพราะในช่วงเบิร์นไขมัน สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการเผาผลาญไขมันออกจากร่างกาย ไม่ใช่การสร้างเสริมกล้ามเนื้อ ถ้าหากเราทั้งเบิร์นไขมันและสร้างกล้ามเนื้อด้วยการเล่นเวตเทรนนิ่งอย่างหนักไปด้วย แทนที่จะเบิร์นไขมันออกได้ก็อาจจะได้กล้ามเนื้อมาแทน แถมยังไขมันก็ยังอยู่อีกด้วย ดังนั้นจึงควรจะยกน้ำหนักแบบพอดีเพื่อให้มวลกล้ามเนื้อยังคงอยู่ในระดับปกตินะคะ
ตัวช่วยสร้างกล้ามเนื้อ ลดไขมันได้พร้อมกัน
Emsculpt เป็นทคโนโลยีหนึ่งเดียวในปัจจุบันที่สามารถกำจัดไขมันควบคู่กับการสร้างกล้ามเนื้อ ทำงานโดยการใช้เทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแบบเฉพาะเจาะจง High-In Tensity Focused Electro-Magnetic (HIFEM) ส่งพลังงานเข้าถึงชั้นกล้ามเนื้อ และไขมันใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อกระตุ้นให้กล้ามเกิดการหดเกร็งถึง 20,000 ครั้งต่อการทำทรีทเมนท์ 30 นาที เทียบเท่ากับการยกเวทหนัก ๆ แล้วทำ Sit up ไปด้วยพร้อม ๆ กัน 20,000 ครั้ง ซึ่งในความเป็นจริงเราแทบจะไม่สามารถออกกำลังกายแบบนี้ได้เลย
ทั้งนี้การหดตัวของกล้ามเนื้อจะสามารถสร้างมวลกล้ามเนื้อใหม่ ทำให้มีขนาดใหญ่และแข็งแรงขึ้น สามารถสร้างเส้นใยกล้ามเนื้อ เพื่อเพิ่มจำนวนกล้ามเนื้อให้ทนทานแข็งแรงและทำให้กล้ามเนื้อกลับมาชิดกันมากขึ้น ส่งผลให้รูปร่างกระชับ มีกล้ามเนื้อหน้าท้องและซิกแพค พร้อม ๆ กับการเผาผลาญไขมันและการทำลายเซลล์ไขมัน
ต้องทำบ่อยแค่ไหน ต้องพักฟื้นหรือไม่
Emsculpt ควรทำ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เหมือนกับการออกกำลังกายปกติ และสามารถทำทรีทเมนท์เพียง 4-6 ครั้งเท่านั้น ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว ที่สำคัญไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
*** ผลการวิจัย แสดงถึงความพึงพอใจต่อการรักษามากถึง 96% และโดยเฉลี่ยมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น 16% และไขมันลดลง 19%
APEX SLIM ประสบการณ์กว่า 25 ปี โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเครื่อง Emsculpt ได้รับการรับรองประสิทธิภาพและความปลอดภัย จากองค์กรอาหารและยาของประเทศอมเริกา (US FDA Approved ย่อมาจาก Food and Drug Administration) ซึ่งเรามีเครื่อง Emsculpt มากที่สุดในประเทศไทย และมีประสบการณ์ทำเคสมากที่สุดเช่นกัน