“ตัวเลข” สำคัญกับการลดน้ำหนักจริงหรอ?
ไม่ว่าใครต่างก็อยากมีหุ่นสวยเอวเอสด้วยกันทั้งนั้น แต่ตัวเลขบนตราชั่งกลับกำลังฟ้องว่าน้ำหนักตัวของเราเพิ่มขึ้นทุกวันๆ จึงทำให้หลายคนรู้สึกว่าเรากำลังอ้วนและต้องการที่จะลดน้ำหนักแบบจริงจัง แต่มีใครเคยสงสัยไหมว่าทำไมน้ำหนักของเพื่อนที่หุ่นดีบางคนกับน้ำหนักของเราถึงมีความใกล้เคียงกัน ทั้งๆ ที่สัดส่วนต่างกันมาก หรือว่าจริงๆ แล้วน้ำหนักจะไม่มีผลกับเรื่องสัดส่วนเลย
ต้องบอกอย่างนี้ว่า ร่างกายของเราประกอบไปด้วยน้ำ มวลกล้ามเนื้อ ไขมัน และส่วนประกอบอื่นๆ การที่ตัวเลขบนตราชั่งน้ำหนักของเราลดลงไม่ใด้หมายความว่าไขมันจะลดลงไปด้วย เมื่อไขมันยังอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายเป็นจำนวนมากจะทำให้เราอ้วนได้ ดังนั้นน้ำหนักบนตราชั่งเป็นเพียงน้ำหนักมวลรวม จึงไม่สามารถเป็นตัวการันตีว่าเราอ้วนหรือผอมเสมอไป แต่สิ่งที่สามารถวัดความอ้วนได้คือดัชนีมวลร่างกายและเส้นรอบเอว
เช็คอ้วนด้วยค่า BMI ดัชนีมวลร่างกาย
BMI (Body Mass Index) หรือการวัดดัชนีมวลร่างกาย ซึ่งเป็นเกณฑ์สากลที่สามารถประเมินความอ้วน หรือผอม สำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป สามารถวัดได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย จากสูตรคำนวณ BMI ดังรูปภาพนี้
เช็คอ้วนด้วยเส้นรอบเอวหรือเส้นรอบพุง
โดยสามารถวัดในตำแหน่งใต้สะดือแบบขนานกับพื้นช่วงตอนเช้าก่อนกินอาหารและวัดตอนหายใจออกแบบพอดีลำตัวไม่แน่นจนเกินไป ซึ่งผู้ชายจะต้องมีค่าเส้นรอบเอวน้อยกว่า 90 เซนติเมตร และผู้หญิงน้อยกว่า 80 เซนติเมตร ถ้าเส้นรอบเอวใหญ่เกินกว่านี้อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ จากโรคอ้วนได้
ฉะนั้น การปั้นหุ่นสวยเอวเอสจึงไม่จำเป็นต้องลดน้ำหนักทั้งตัว หรือกังวลกับตัวเลขน้ำหนักตัวที่ขึ้นๆ ลงๆ บนตราชั่งอีกต่อไป แต่เปลี่ยนมาเป็นการลดสัดส่วนด้วยการกำจัดไขมันและสร้างกล้ามเนื้อแทน
กล้ามเนื้อสำคัญอย่างไรกับการลดน้ำหนัก
มวลกล้ามเนื้อต้องการแคลอรี่เพื่อมาเลี้ยงตัวเอง จึงเกิดการกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานมากขึ้น จากอาหารที่เรารับประทานเข้าไปและเมื่อเผาผลาญจนหมด กล้ามเนื้อจะดึงไขมันส่วนเกินออกมาเผาผลาญเพิ่ม แม้จะอยู่เฉยๆ ร่างกายจะเผาผลาญไขมันมากกว่าคนที่มีกล้ามเนื้อน้อย
แต่ไม่ใช่การอดอาหารเพื่อให้ร่างกายข้ามไปเผาผลาญไขมันส่วนเกินแต่อย่างใด เพราะการอดอาหารจะทำให้พลังงานจากการเผาผลาญโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตไปเลี้ยงมวลกล้ามเนื้อไม่เพียงพอ จนสูญเสียกล้ามเนื้อและจะส่งผลให้ระบบเผาผลาญทำงานได้น้อยลงจนทำให้อ้วนได้ นี่จึงเป็นสาเหตุของปัญหาลดน้ำหนักแต่สัดส่วนไม่ลดลง น้ำหนักลดลงเร็วแต่ภายหลังกลับมีโยโย่ เอฟเฟกต์เกิดขึ้น หรือกินอะไรก็อ้วนง่ายขึ้นกว่าเดิม
ทำไมคนที่มีน้ำหนักเท่ากัน แต่สัดส่วนต่างกัน
เนื่องจากไขมันส่วนเกินที่ถูกเผาผลาญออกไปแล้วมวลกล้ามเนื้อจะเข้าไปอยู่แทนที่ไขมัน ซึ่งถึงแม้ว่ามวลกล้ามเนื้อจะมีปริมาณ 2 กิโลกรัมเท่ากันกับไขมัน แต่ขนาดของกล้ามเนื้อจะน้อยกว่า ทำให้หุ่นเราดูสวย รูปร่างมีสัดส่วนและลีนไขมัน
เคล็ดลับหุ่นลีน มี Six-Pack
วิธีที่การกำจัดไขมันพร้อมสามารถสร้างกล้ามเนื้อนั้นมีเพียงการออกกำลังกาย แต่หากไม่อยากเหนื่อยหรือออกกำลังกายแบบผิดวิธีจนสูญเสียกล้ามเนื้อ ที่ Apex Slim มีตัวช่วยสร้างกล้ามเนื้อมากมาย แบบชิวๆ สบายๆ เห็นผลชัดเจนแน่นอน
Emsculpt เทคโนโลยีหนึ่งเดียวในปัจจุบันที่สามารถกำจัดไขมันควบคู่กับการสร้างกล้ามเนื้อ ทำงานโดยการใช้เทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแบบเฉพาะเจาะจง High-In Tensity Focused Electro-Magnetic (HIFEM) ส่งพลังงานเข้าถึงชั้นกล้ามเนื้อและไขมันใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อกระตุ้นให้กล้ามเกิดการหดเกร็งถึง 20,000 ครั้งต่อการทำทรีตเมนต์ 30 นาที เทียบเท่ากับการยกเวทหนักๆ แล้วทำ Sit up ไปด้วยพร้อมๆ กัน 20,000 ครั้ง ซึ่งในความเป็นจริงเราแทบจะไม่สามารถออกกำลังกายแบบนี้ได้เลย
ทั้งนี้การหดตัวของกล้ามเนื้อจะสามารถสร้างมวลกล้ามเนื้อใหม่ ทำให้มีขนาดใหญ่และแข็งแรงขึ้น สามารถสร้างเส้นใยกล้ามเนื้อ เพื่อเพิ่มจำนวนกล้ามเนื้อให้ทนทานแข็งแรงและอยู่ได้นานขึ้น ส่งผลให้รูปร่างกระชับ มีกล้ามเนื้อหน้าท้องและซิกแพค พร้อมๆ กับการเผาผลาญไขมันและการทำลายเซลล์ไขมัน
ต้องทำบ่อยแค่ไหน ต้องพักฟื้นหรือไม่
Emsculpt ควรทำ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เหมือนกับการออกกำลังกายปกติและสามารถทำทรีตเมนต์เพียง 4-6 ครั้งเท่านั้นจะได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว ที่สำคัญไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
*** ผลการวิจัย แสดงถึงความพึงพอใจต่อการรักษามากถึง 96% และโดยเฉลี่ยมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น 16% และไขมันลดลง 19%
APEX SLIM ประสบการณ์กว่า 25 ปี โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเครื่อง Emsculpt จากประเทศอังกฤษด้วยเทคโนโลยี HIFEM นวัตกรรมแรกและนวัตกรรมเดียวที่มีงานวิจัยมากที่สุดถึง 20 งานวิจัยว่ารองรับ Build Muscle & Claim Fat
