
เช็คอ้วน เช็คพุง แก้ที่ต้นเหตุ!
“อ้วน” เป็นภาวะที่ร่างกายมีไขมันสะสมในปริมาณที่มากเกินความจำเป็น จนไม่สามารถเผาผลาญพลังงานได้หมด มีลักษณะทั้งอ้วนลงพุง และอ้วนทั้งตัว ซึ่งส่งผลเสียกับสุขภาพและนำไปสู่การเป็นโรคต่างๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นโรคเบาหวาน, ความดัน, หัวใจ, ข้อเข่าเสื่อมเป็นต้น
ทั้งนี้เกิดจากพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ไม่มีประโยชน์ หรือกินในปริมาณมาก และการออกกำลังกายไม่เพียงพอกับการเผาผลาญไขมันส่วนเกินออก ซึ่งถ้าประเมินจากความรู้สีกส่วนตัว มาตราฐานความอ้วนของแต่ละคนอาจไม่เท่ากัน เราจึงนำวิธีเช็คความอ้วนมาให้ดูกันว่ามีอะไรบ้าง
ค่า BMI ดัชนีมวลร่างกาย
BMI (Body Mass Index) หรือการวัดดัชนีมวลร่างกาย ซึ่งเป็นเกณฑ์สากลที่สามารถประเมินความอ้วน หรือผอม สำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป สามารถวัดได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย จากสูตรคำนวณ BMI = kg/m2
สูตรคำนวณหาดัชนีมวลกาย
ดัชนีมวลกาย (BMI) = น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) ÷ (ส่วนสูง (เมตร) x 2)
ยกตัวอย่าง นาย A มีน้ำหนัก 90 กิโลกรัม และสูง 172 ซม.
ดัชนีมวลกาย (BMI) = 90 ÷ (1.72 x 2)
วิธีการคิดง่ายๆ ดังนี้
เปลี่ยนส่วนสูงจากเซนติเมตรให้เป็นเมตรก่อน แล้วยกกำลัง2
หรือการคูณเลขเดิมซ้ำ คือ 1.72 x 1.72 = 2.958
ดัชนีมวลกาย (BMI) = 90 ÷ 2.958
= 30.42 (จะอยู่ในเกณฑ์อ้วนมาก)
ดังนั้นถ้าผลลัพธ์มากกว่า 30 อยู่ในเกณฑ์อ้วนมาก
- ผอมเกินไป = น้อยกว่า 18.5
น้ำหนักน้อยกว่าปกติ สามารถเสี่ยงเป็นโรคได้เช่นกัน เนื่องจากการรับสารอาหารไม่เพียงพอต่อร่างกาย ส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลียง่าย ซึ่งควรกินอาหารที่มีประโยชน์และกินในปริมาณที่เหมาะสมกับแต่ละวัน และควรออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
- น้ำหนักปกติ = 18.5 – 22.9
น้ำหนักที่เหมาะสมสำหรับคนไทย จะมีค่า BMI ระหว่าง 18.5-24 ซึ่งสามารถห่างไกลโรคที่เกิดจากความอ้วน และมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ น้อยที่สุด
- ท้วม = 23.0 – 24.90
อ้วนในระดับหนึ่ง 1 เป็นกลุ่มผู้ที่มีความอ้วนอยู่บ้าง แต่หากประวัติคนในครอบครัวเคยเป็นโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ก็ถือว่ายังมีความเสี่ยงมากกว่าคนปกติ
- อ้วน = 30.0 ขึ้นไป
อ้วนระดับ 2 ถึงแม้จะไม่ถึงเกณฑ์ที่ถือว่าอ้วนมากๆ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่มากับความอ้วนได้เช่นกัน ทั้งโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ควรปรับพฤติกรรมการทานอาหาร ออกกำลังกาย และตรวจสุขภาพเป็นประจำ
- อ้วนมาก = 30.0 ขึ้นไป
อ้วนระดับ 3 ค่อนข้างอันตราย เสี่ยงต่อการเกิดโรคที่แฝงมากับความอ้วน ควรปรับพฤติกรรมการทานอาหาร และควรเริ่มออกกำลังกาย
เส้นรอบเอว, เส้นรอบพุง
โดยสามารถวัดในตำแหน่งใต้สะดือแบบขนานกับพื้นช่วงตอนเช้าก่อนกินอาหาร และวัดตอนหายใจออกแบบพอดีลำตัวไม่แน่นจนเกินไป ซึ่งผู้ชายจะต้องมีค่าเส้นรอบเอวน้อยกว่า 90 เซนติเมตร และผู้หญิงน้อยกว่า 80 เซนติเมตร ถ้าเส้นรอบเอวใหญ่เกินกว่านี้อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ จากโรคอ้วนได้
เราต้องหยุดอ้วน หยุดโรค ที่ต้นเหตุนั่นคือการกิน ศูนย์ลดน้ำหนัก Apex Slim มีแพทย์เฉพาะทางที่เชี่ยวชาญในด้านการลดน้ำหนักโดยเฉพาะและเป็นศูนย์รวมเทคโนโลยีทันสมัยระดับโลกในการลดน้ำหนักและสัดส่วนที่มีจำนวนเครื่องมือมากที่สุด
โปรแกรมลดน้ำหนักที่ Apex Slim ใช้การผสมผสานการรักษา โดยมีเทคโนโลยีล่าสุด “เปปไทด์ลดหิว” สารโปรตีนสกัดเลียนแบบฮอร์โมน จะช่วยทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว ลดความรู้สึกหิวและความอยากอาหาร จึงช่วยให้ควบคุมอาหารได้ง่ายขึ้น ลดน้ำหนักที่ต้นเหตุ ไม่ต้องเสี่ยงออกกำลังกายหนักอีกต่อไป ซึ่งการควบคุมอาหารเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการลดน้ำหนักถึง 80% ใช้ต่อเนื่องเพียง 4 เดือน น้ำหนักลดลง 5 – 10% และสามารถหยุดการใช้ได้เมื่อลดน้ำหนักได้เป็นที่พอใจ โดยไม่มีโยโย่ เอฟเฟกต์เหมือนกับยาลดน้ำหนักแบบเดิม
อยากเปลี่ยนพร้อมปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้ที่นี่
095-102-8585
LINE: https://line.me/ti/p/%40APEXslim
FB INBOX: http://m.me/apexslim
FB Page: https://www.facebook.com/ApexSlim