
5 เคล็ดลับ สร้างกล้ามเนื้อ ลดพุง หน้าท้องแบนราบ
การสร้างกล้ามเนื้อจะสามารถช่วยเพิ่มการเผาผลาญจนลดพุงและทำให้หน้าท้องแบนราบ ถ้าถามคนส่วนใหญ่ว่าต้องใช้อะไรบ้างในการสร้างกล้ามเนื้อ คนอาจจะตอบว่าเราต้องกินโปรตีนให้มากขึ้น ซึ่งจริง ๆ แล้วโปรตีนเป็นสิ่งสำคัญในสร้างกล้ามเนื้อก็จริง แต่การกินโปรตีนในปริมาณมากอย่างเดียวอาจจะไม่ได้ผล วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับ สร้างกล้ามเนื้อ ลดพุง หน้าท้องแบนราบ มาฝากกัน
-
ลดการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ
การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอในช่วงที่ต้องการลดไขมันส่วนเกิน เป็นสิ่งที่ไม่ควรจะหักโหมมากเกินไป ถึงแม้ว่าจะช่วยให้เผาผลาญแคลอรีได้เร็วขึ้น แต่ก็จะส่งผลทำให้สูญเสียมวลกล้ามเนื้อได้เช่นเดียวกัน เพราะเมื่อออกกำลังกายอย่างหักโหมมากเกินไปก็จะต้องรับกินมากขึ้นเพื่อนำพลังงานไปทดแทนและฟื้นฟูร่างกาย ดังนั้นควรหันมาออกกำลังกายแบบเบา ๆ แต่ทำอย่างสม่ำเสมอจะดีกว่า ถึงแม้ว่าจะให้ผลช้ากว่าการออกกำลังกายแบบหนักหน่วง แต่ก็ทำให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วกว่า
-
กินก่อนออกกำลังกาย
โดยก่อนการออกกำลังกายควรกินโปรตีนไขมันต่ำให้มากขึ้น เช่น เนื้อปลา, อกไก่, สันในไก่, เนื้อแดงไม่ติดมัน, ถั่วฝักยาว, เต้าหู้ และกุ้ง เป็นต้น โดยควรได้รับอย่างน้อย 46 กรัม หากน้อยกว่านี้ก็จะทำให้มวลกล้ามเนื้อมีโอกาสที่จะลดลงได้
-
กินหลังออกกำลังกาย
อาหารมีความสำคัญอย่างมากกับการออกกำลังกาย นอกจากเราควรจะกินอาหารก่อนออกกำลังกายแล้ว เราควรกินอาหารหลังออกกำลังกายเพื่อฟื้นฟูกล้ามเนื้อที่สูญเสียไป เช่น นมช็อกโกแลต โดยปกติแล้วนมจะประกอบด้วยโปรตีนค่อนข้างสูง โดยนม 100 กรัม จะมีโปรตีน 3-4 กรัม ยิ่งถ้านมประเภทโปรตีนสูงจะมีโปรตีนสูงถึง 30 กรัมเลยทีเดียว ซึ่งอย่างที่เรารู้กันดีว่าโปรตีนมีส่วนช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อเป็นอย่างดี แต่หากเราเติมช็อกโกแลตลงไปด้วยก็จะช่วยให้นมมีความสมดุลของคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน ที่จะช่วยให้กล้ามเนื้อฟื้นฟูกล้ามเนื้อได้เร็วขึ้น แต่ควรเลือกนมขาดมันเนย และไม่มีน้ำตาลมากเกินไป เพื่อไม่ทำให้ร่างกายรับน้ำตาลมากเกินไปจนเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
-
ออกกำลังกายด้วยการโหนบาร์
คนส่วนใหญ่มักมีความเชื่อผิด ๆ ว่าการโหนบาร์ หรือการยกน้ำหนัก ไม่ได้ช่วยเบิร์นไขมันออกจากร่างกายได้ จึงไปหักโหมออกกำลังกายด้วยวิธีอื่นที่ทำให้เบิร์นไขมันได้ และละเลยการรักษากล้ามเนื้อให้ยังคงแข็งแรง ทั้ง ๆ ที่จริงแล้วการโหนบาร์และยกน้ำหนักเป็นการออกกำลังกายที่จะช่วยทำให้เรามารถเบิร์นไขมันได้โดยไม่สูญเสียมวลกล้ามเนื้อตามไปด้วย นอกจากนี้ยังช่วยทำให้กล้ามเนื้อของเราแข็งแรงมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งการรักษากล้ามเนื้อของเราให้ยังแข็งแรงในช่วงที่กำลังลดปริมาณไขมันส่วนเกินจะช่วยทำให้เรามีสุขภาพที่แข็งแรง
-
Emsculpt NEO เทคโนโลยีสร้างกล้ามเนื้อใหม่ล่าสุด
EMSCULPT Neo เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ผสานเอา 2 เทคโนโลยี “HIFEM” (High Intensity Focused Electro-Magnetic field) และ “Synchronized RF” มาไว้ด้วยกัน โดยจะ “ปล่อยพลังงานออกมาพร้อมกัน” ไม่ใช่การสลับเปิด-ปิดอย่างที่เครื่องอื่น ๆ ทำ สามารถสร้างกล้ามเนื้อและสลายไขมันได้ในเครื่องเดียว

EMSCULPT Neo คืออะไร
2 เทคโนโลยีของ EMSCULPT NEO ทำงานอย่างไร
- เทคโนโลยี HIFEM
จะส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความถี่สูงแบบเฉพาะจะจง (High Intensity Focused Electro-Magnetic field) ไปยังเนื่อเยื่อโดยตรงไม่แบบผ่านสมองในบริเวณกว้างและลึกครอบคลุมกล้ามเนื้อเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการหดตัวและคลายตัวของกล้ามเนื้อเป็นจังหวะต่อเนื่องสูงสุด 20,000 ครั้ง ในเวลาเพียง 30 นาที หรือเทียบเท่ากับการทำ Sit Up หรือ Squat 20,000 ครั้ง ในเวลาเพียง 30 นาที ซึ่งการออกกำลังกายธรรมดาไม่สามารถทำได้
- เทคโนโลยี Synchronized RF
จะปล่อยความร้อนด้วยคลื่นวิทยุที่สามารถทำงานพร้อมกันบนสนามแม่เหล็กไฟฟ้าคลื่นวิทยุ ทำให้ความร้อนกระจายไปสู่เนื้อเยื่อต่าง ๆ และไปสะสมในชั้นไขมัน ทำให้ชั้นไขมันสะสมความร้อนอยู่ที่ 43-45 องศาเซลเซียส จนเมื่ออุณหภูมิสูงกว่า 42-43 องศาเซลเซียส เซลล์ไขมันจะเริ่มกระบวนการตายอย่างเป็นธรรมชาติ (Apoptosis) ซึ่งนำไปสู่การสลายไขมันและการตายอย่างสมบูรณ์ของเซลล์ไขมัน โดยเซลล์ที่ตายและสารตกค้างของเซลล์จะถูกขับออกจากร่างกายทางระบบน้ำเหลืองอย่างช้า ๆ ตามธรรมชาติ
ข้อดีของการรวมพลังงาน HIFEM และ Synchronized RF มาไว้ในเครื่องเดียว
นอกจากพลังงาน HIFEM จะช่วยสร้างกล้ามเนื้อที่เป็นเหมือนเตาเผาผลาญไขมัน และพลังงาน Synchronized RF จะสามารถช่วยลดไขมันผิวหนังชั้นตื้นได้โดยตรงแล้ว Emsculpt NEO ยังเป็นเครื่องทาง aesthetic เครื่องแรกที่ส่งพลังงานความร้อนไปยังชั้นกล้ามเนื้อที่มีประโยชน์ในการสร้างกล้ามเนื้อดังนี้
- พลังงานความร้อนจะเพิ่มการไหลเวียนเลือดในกล้ามเนื้อ ทำให้การขนส่งออกซิเจนและสารอาหารเพิ่มขึ้น จึงช่วยฟื้นฟูและการเติบโตของกล้ามเนื้อเร็วขึ้น
- กระตุ้นการสร้างฮีทช็อคโปรตีนในกล้ามเนื้อ ช่วยลดการอักเสบ รักษาโครงสร้างของกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อคืนสภาพเร็ว จึงมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มขนาดของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้ออบอุ่นแบบเดียวกับการวอร์มอัพร่างกาย เพิ่มความรู้สึกสบายในแม้ขณะเกิดการหดตัวของกล้ามเนื้อระดับสูงในเวลาอันสั้น
Edge Applicators จุดเด่นที่ทำให้ EMSCULPT Neo แตกต่างในการสลายไขมัน สร้างเอวเอส
EMSCULPT Neo มี “Edge Applicators” แอปพลิเคเตอร์รุ่นใหม่ล่าสุดที่ออกแบบมาช่วยสร้างกล้ามเนื้อและลดไขมันได้ตรงจุดมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณช่วงเอวด้านข้างและด้านหลังลำตัว ซึ่งเป็นจุดที่ยากต่อการเผาผลาญไขมัน ทำให้สามารถสร้างเอวเอส เอวคอด ได้ภายใน 30 นาที
EMSCULPT Neo ใช้เวลาในการทำกี่นาที
ทุก Area ใช้ระยะเวลา 30 นาที ทำเพียง 4-6 ครั้งต่อบริเวณ สามารถทำได้สูงสุด 3 จุดต่อวัน
ความรู้สึกระหว่างทำ EMSCULPT Neo
รู้สึกเหมือนกำลังกายที่บริเวณนั้นอยู่ จะรู้สึกถึงการหดและเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เกิดกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย
หลังทำ EMSCULPT Neo จะรู้สึกอย่างไร
อาจจะมีแดงบริเวณที่ทำบ้าง แต่ประมาณ 10-20 นาทีรอยแดงก็จะจางหายไปเอง และหลังทำบางคนอาจจะรู้สึกตึง ๆ กล้ามเนื้อ 2-3 วันหลังทำ ซึ่งเป็นเรื่องปกติเหมือนตอนเราออกกำลังกาย
ผลลัพธ์หลังทำ EMSCULPT Neo
ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนับจากทรีตเม้นท์ครั้งสุดท้ายไปอีก 3 เดือน โดยจะสามารถสร้างมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นได้ 25% และสามารถลดไขมันใต้ชั้นผิวหนังเฉลี่ย 30% จึงช่วยทำให้มีรูปร่างที่ดีขึ้น ดูเฟิร์มกระชับ ผิวเนียนเรียบ ไม่หย่อนคล้อย ไม่ย้วย เอวเอส เอวคอด แก้ปัญหากล้ามเนื้อหน้าท้องแยกในคุณแม่หลังคลอดได้
ข้อแนะนำหลังทำ EMSCULPT Neo
- ดื่มน้ำและออกกำลังกายหรือรักษาสุขภาพให้แข็งแรงสม่ำเสมอ เพื่อกระตุ้นให้กล้ามเนื้อเกิดการ เจริญเติบโตได้ดีและกำจัดของเสียออกจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การควบคุมอาหารประเภทแป้ง น้ำตาล ไขมัน จะช่วยให้ระสิทธิภาพของผลลัพท์ชัดเจนยิ่งขึ้น
- แนะนำให้ทานโปรตีนจากเนื้อสัตว์ติดมันน้อย เช่น อกไก่ เนื้อปลา เพื่อใช้ในการสร้างกล้ามเนื้อ ถ้าได้รับโปรตีนที่ไม่เพียงพอจะทำให้ลดประสิทธิภาพในการสร้างกล้ามเนื้อ
- อัตราส่วนโปรตีนต่อน้ำหนักตัวที่ควรได้รับอย่างน้อยคิดเป็น 1:2 เช่นน้ำหนัก 50 กิโลกรัมต้องได้ รับโปรตีน 100 กรัมต่อวันเป็นอย่างน้อย
EMSCULPT Neo ทำบริเวณไหนได้บ้าง
สามารถทำได้ที่หน้าท้อง, ก้น, ต้นขาด้านหน้า, ต้นขาด้านหลัง, ต้นขาด้านนอก, ต้นขาด้านใน, ต้นแขนด้านหน้า, ท้องแขน และน่อง และล่าสุดมี EDGE applicators ใหม่สำหรับทำที่บริเวณเอวด้านข้าง ซึ่งเป็นบริเวณที่ลดไขมันยากมาก ๆ
EMSCULPT Neo เหมาะกับใคร
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อ ฆ่าไขมัน และต้องการกระชับผิวไปในเวลาเดียวกัน
- ทุก ๆ คนที่อยากมีรูปร่างที่ดี อยากให้รูปร่างดูเฟิร์มกระชับ เอวเอส แต่ไม่อยากเหนื่อย ไม่อยากเจ็บตัว
- คุณแม่หลังหลอดที่อยากให้หน้าท้องดูเฟริมกระชับเหมือนก่อนมีน้อง เพื่อลดการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกในคุณแม่หลังคลอด
ความปลอดภัยของ EMSCULPT Neo
- มีการเพิ่มความนุ่มนวลในการหดตัวถึง 7 รูปแบบ ทำให้การกระตุ้นการหดตัวของกล้ามเนื้อรู้สึกสบายมากขึ้น
- มีเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิที่ผิวตลอดเวลาที่ทำการรักษา คลื่น RF จะลดลงอัตโนมัติ เมื่ออุณหภูมิที่ผิวเกินกว่าค่าที่มาตรฐาน
- จะมีการปรับระดับพลังงานของคลื่น RF โดยประเมินจาก Impedance Feedback ซึ่งแตกต่างกันในแต่ละบุคคล
- เป็นนวัตกรรมที่ได้รับรองประสิทธิภาพและมาตรฐานจาก US FDA มีวิจัยและพัฒนาจนมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุด
- ถ้าอุณหภูมิผิวด้านบนถึง 43°C เครื่องจะมีการปรับพลังงาน RF ที่ออกโดยอัต โนมัติ เพื่อหลีกเลี่ยงความร้อนสะสมที่ชั้นผิวหนังมากเกินไป
- เครื่องจะหยุดทำงานทันที เมื่อวัดอุณหภูมิได้เกิน 43°C
ใครบ้างที่ไม่ควรทำ EMSCULPT Neo
- มีเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ
- ฝังเครืองช็อกไฟฟ้าหรือเครื่องกระตุ้นประสาท
- มีอุปกรณ์อิเล็คโทรนิคในร่างกาย
- ปอดอุดตัน
- มีโลหะในร่างกาย
- ใส่เครื่องให้ยา หรือ สารละลายทางหลอดเลือดดำ
- ภาวะเลือดออกง่าย
- โรคหัวใจและหลอดเลือดอุดตัน
- รักษาด้วยสารต้านการแข็งตัวของเลือด
- มะเร็ง
- เป็นไข้
- ตั้งครรภ์
- เพิ่งได้รับการผ่าตัด ซึ่งการหดตัวของกล้ามเนื้ออาจส่งผลต่อการรักษา
- โรคลมชัก
- แพ้สาร Latex ง่าย
หลังคลอดทำ EMSCULPT Neo ได้ตอนไหน
- สามารถทำได้หลังคลอด 6 เดือนแล้ว
- กรณีคุณแม่อยู่ในช่วงให้นมบุตร แนะนำให้เว้นให้นมบุตร 1 วัน
EMSCULPT Neo ทำกับเครื่องอื่น ๆ ได้ไหม
เนื่องจากการสลายไขมันของเครื่อง EMSCULPT Neo จะไม่ก่อให้เกิดการอักเสบในร่างกาย และไม่ต้องพักฟื้น จึงสามารถทำก่อน TREATMENT อื่น ๆ หรือก่อนดูดไขมันได้
EMSCULPT Neo ที่ Apex Slim ดีอย่างไร
Apex Slim มีประสบการณ์กว่า 25 ปี โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านรูปร่าง และมี EMSCULPT Neo เครื่องแท้ที่ได้รับการรับรองประสิทธิภาพและความปลอดภัย จากองค์กรอาหารและยาของประเทศอมเริกา (US FDA Approved ย่อมาจาก Food and Drug Administration) และยังมีประสบการณ์ทำเคสจำนวนมากที่สุดในประเทศ พร้อมมีรีวิวความประทับใจจากผู้ใช้จริงจำนวนมาก