5 พืชลดน้ำหนัก ปลูกง่ายในคอนโด

5 พืชลดน้ำหนัก ปลูกง่ายในคอนโด

การลดน้ำหนักสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน เพระว่าแคลอรี่จากอาหาร 100% สามารถเผาผลาญผ่านการออกกำลังกายได้เพียง 10-30% เท่านั้น ฉะนั้นหากเราเลือกทานอาหารที่มีแคลอรี่น้อยและอาหารที่มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนัก หุ่นของเราจะกลับมาสวยเพรียวได้ไม่ยาก 

 

อาหารที่มีประโยชน์และได้รับความนิยมในการลดน้ำหนักคงหนีไม่พ้นผักและผลไม้ วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปดู 5 พืชลดน้ำหนักว่ามีอะไรบ้าง ที่สำคัญปลูกง่ายแม้อยู่ในคอนโด ไม่ต้องเสี่ยงติดเชื้อโควิด 19 กับการไปเลือกซื้อที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต แถมยังประหยัดเงินในกระเป๋าอีกด้วย

 

  1. พริก

เป็นพืชผักสวนครัวที่มีรสชาติเผ็ดร้อน นิยมนำมาประกอบอาหารมากกว่าการกินสดๆ มีสรรพคุณป้องกันโรคมะเร็ง, ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ, ลดน้ำตาลในเส้นเลือดและที่สำคัญสามารถลดความอ้วนด้วยวิธีธรรมชาติได้ เนื่องจากในพริกจะมีสาร Oleoresin กรด Ascorbic acid และ Capsaicin ทำหน้าที่เร่งการเผาผลาญให้ร่างกายเปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน เมื่อสารอาหารถูกเร่งการเผาผลาญจะช่วยให้น้ำหนักลดลงด้วยเช่นกัน ซึ่งผลงานวิจัยพบว่า Capsaicin ในอาหารที่มีรสเผ็ด สามารถลดปริมาณอาหารที่รับประทานได้ประมาณ 200 กิโลแคลอรี่

วิธีปลูก : นำพริกแช่น้ำไว้ 1 คืน เพื่อง่ายต่อการแกะเมล็ดพริกข้างใน เมื่อแกะเมล็ดพริกออกมาแล้วให้นำไปหยอดลงดินที่เตรียมไว้ (แนะนำเป็นดินร่วนปนทราย) ในช่วงเริ่มปลูกควรรดน้ำวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น หลังจากสัปดาห์ที่ 7 ให้ลดการให้น้ำเหลือเพียงอาทิตย์ละ 1 ครั้ง แล้ว และควรวางกระถางในที่ที่แสงแดดส่องถึง โดยไม่จำเป็นต้องพรวนดิน จากนั้น 2-3 เดือน เราก็จะได้พริกพร้อมเด็ดแล้ว

 

  1. ต้นอ่อนทานตะวัน

เป็นต้นของทานตะวันอายุประมาณ 7-11 วัน นิยมนำมาประกอบอาหารหรือกินสดกับน้ำสลัด เนื่องจากมีรสชาติหวานกรอบและอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งไฟเบอร์, โปรตีน, เหล็ก, แคลเซียม, สังกะสี, โพแทสเซียม อีกทั้งยังมีวิตามินเอ, วิตามินอี ช่วยบำรุงสายตาและผิวพรรณ วิตามินบี 1, บี 6, บี 12 ที่ช่วยบำรุงสมอง ป้องกันโรคสมองเสื่อม 

ที่สำคัญต้นอ่อนทานตะวันมีปริมาณไขมันสูงถึง 16 กรัม ไขมันอิ่มตัว 2 กรัม ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 8 กรัม ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 6 กรัม ซึ่งเป็นไขมันที่ด­­­ีและมีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือดและสามารถช่วยลดน้ำหนักได้ แต่ต้องกินในปริมาณที่พอดี เนื่องจากต้นอ่อนทานตะวัน 100 กรัม จะให้พลังงานถึง 53 กิโลแคลอรี่ 

วิธีปลูก : นำเมล็ดทานตะวันสำหรับเพาะปลูกแช่น้ำ 4-6 ชั่วโมง จากนั้นนำเมล็ดมาบ่มในผ้าขนหนูประมาณ 18-20 ชม.  โดยทำการพลิกเมล็ดกลับไปกลับมาทุกๆ 5 ชั่วโมงจึงจะได้เมล็ดที่เริ่มงอกเป็นตุ่มๆ จากนั้นหย่อนเมล็ดลงไปในดินที่เตรียมไว้ รดน้ำแล้วนำภาชนะมาปิดครอบไว้ รอประมาณ 7 วัน ต้นอ่อนทานตะวันก็พร้อมให้เราเก็บรับประทานได้แล้ว

 

  1. ถั่วงอก

ซึ่งถั่วงอกคือรากที่งอกจากเมล็ดถั่วดำ, ถั่วลันเตา, ถั่วเหลืองและถั่วเขียว เป็นผักที่กินได้ทั้งดิบและสุก มีกลิ่นเฝื่อนและรสฝาดเฉพาะตัว นิยมนำมาประกอบอาหาร เนื่องจากเป็นผักที่มีสารอาหารสูงทั้งไฟเบอร์ที่ช่วยในการขับถ่าย มีเอนไซม์ในการช่วยย่อยอาหาร มีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระช่วยให้ดูอ่อนกว่าวัย ที่สำคัญเป็นอาหารที่มีน้ำตาลน้อยและให้พลังงานต่ำกินแล้วไม่อ้วน ซึ่งถั่วงอก 100 กรัม จะให้พลังงาน 39 กิโลแคลอรี

วิธีปลูก : เชื่อว่าวิชาวิทยาศาสตร์ตอนเด็กๆ หลายคนคงเคยผ่านการปลูกถั่วงอกกันมาบ้างแล้ว เพราะถั่วงอกมีขั้นตอนการปลูกที่ไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาเพียง 4-5 วัน สามารถเก็บมารับประทานได้แล้ว ซึ่งการปลูกถั่วงอกเริ่มจากการแช่ถั่วเขียวในน้ำอุ่นประมาณ 6-8 ชั่วโมง จากนั้นนำกระดาษทิชชูวางไว้ก้นภาชนะที่มีรู เช่น ตะกร้า แล้วหย่อนเมล็ดถั่วให้ทั่วกระดาษพร้อมคลุมด้วยผ้าชุบน้ำ ทำการวันละรดน้ำ 2-3 เวลา เราจะได้ถั่วงอกสดพร้อมรับประทาน

 

  1. ว่านหางจระเข้

โดยทั่วไปแล้วเราจะเห็นหลายคนนำว่านหางจระเข้มาทาผิว เพื่อปลอบประโลมผิวคล้ำเสียแสบไหม้จากการโดนแดดทำร้าย หรือทาเพื่อบรรเทาอาการแสบร้อนจากการโดนไฟไหม้น้ำร้อนลวก นอกจากนี้ว่านหางจระเข้ยังนิยมนำมาทานเพื่อลดน้ำหนัก เนื่องจากสารในว่านหางจระเข้มีสรรพคุณช่วยป้องกันการเกิดไขมันในกระแสเลือด ช่วยลดปริมาณน้ำตาลในเลือด กระตุ้นการขับถ่าย มีสารต้านอนุมูลอิสระที่จะเข้าไปช่วยให้ระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานดีขึ้น 

ผลการศึกษาพบว่า อาสาสมัครที่มีคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ดื่มน้ำว่านหางจระเข้ติดต่อกัน 12 สัปดาห์ มีปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือดลดลงราว 15% ว่านหางจระเข้จึงช่วยลดน้ำหนักได้ แต่ควรเลือกดื่มแบบหวานน้อยหรือมีปริมาณน้ำตาลในปริมาณไม่มากนัก

วิธีปลูก : ทำการแยกหน่อจากต้นที่สมบูรณ์มาปักลงในกระถางที่เตรียมไว้และกลบดิน รดน้ำวันละ 1-2 ครั้ง ซึ่งว่านหางจระเข้จะชอบความชื้นแต่ไม่ถึงกับชุ่มจนเกินไป จึงควรลดน้ำตอนที่ดินแห้งมากกว่าและต้องการแสงแดดอ่อนๆ เพื่อไม่ให้ต้นไหม้ ซึ่งหากต้องการตัดใบมาใช้ให้ตัดเมื่อปลูกไปแล้ว 8-12 เดือน

 

  1. ผักกาดหอม

ผักกาดหอมมีหลากหลายสายพันธุ์ด้วยกัน ซึ่งมีทั้งใบสีเขียวอ่อน เขียวปนเปลือง เขียวแก่ จนถึงมีสีแดงหรือมีสีน้ำตาลปนอยู่ ผักกาดหอมอุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุมากมาย นอกจากนี้ยังมีแคลอรี่น้อยและมีปริมาณเส้นใยอาหารสูงซึ่งช่วยขับไขมันออกจากร่างกาย นอกจากกินแล้วจะไม่อ้วนยังช่วยให้ผอมอีกด้วย

วิธีปลูก : นำเมล็ด 1-2 เมล็ด ลงในดินลึกประมาณ 4 นิ้ว กลบดินทับบางๆ รดน้ำพอให้ชุ่มแต่ระวังไม่แฉะจนเกินไป ตั้งในที่ร่มแสงแดดส่องถึง เมื่อต้นอ่อนงอกหรือประมาณ 4 วัน สามารถย้ายมาปลูกในกระถางใหญ่ได้เลย โดยการรดน้ำให้ดินชุ่มชื้นเช้า-เย็น ควรให้สารอาหารแก่พืชด้วยปุ๋ยละลายน้ำ สามารถเก็บผลผลิตหลังจากเพาะเมล็ดประมาณ 40-45 วัน

    

5 พืชลดน้ำหนักที่เราแนะนำไปข้างต้นปลูกไม่ยากเลยใช่ไหมคะ นอกจากจะได้ผักที่สามารถลดน้ำหนักได้แล้ว ยังได้ออกกำลังกายเบาๆ ด้วย แต่หากใครที่กำลังมองหาตัวช่วยลดน้ำหนักอื่นๆ ศูนย์ลดน้ำหนัก Apex Slim มีแพทย์เฉพาะทางที่เชี่ยวชาญในด้านการลดน้ำหนักโดยเฉพาะและเป็นศูนย์รวมเทคโนโลยีทันสมัยระดับโลกในการลดน้ำหนักและสัดส่วนที่มีจำนวนเครื่องมือมากที่สุด 

โปรแกรมลดน้ำหนักที่ Apex Slim ใช้การผสมผสานการรักษา โดยมีเทคโนโลยีล่าสุด “เปปไทด์ลดหิว” สารโปรตีนสกัดเลียนแบบฮอร์โมน จะช่วยทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว ลดความรู้สึกหิวและอยากอาหาร จึงช่วยให้ควบคุมอาหารได้ง่ายขึ้น ลดน้ำหนักที่ต้นเหตุ ไม่ต้องเสี่ยงออกกำลังกายหนัก

ซึ่งการควบคุมอาหารเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการลดน้ำหนักถึง 80% ใช้ต่อเนื่องเพียง 4 เดือน น้ำหนักลดลง 5 – 10%  และสามารถหยุดการใช้ได้เมื่อลดน้ำหนักได้เป็นที่พอใจ โดยไม่มีโยโย่ เอฟเฟกต์เหมือนกับยาลดน้ำหนักแบบเดิม

 

อยากเปลี่ยนพร้อมปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้ที่นี่
095-102-8585
LINE: https://line.me/ti/p/%40APEXslim
FB INBOX: http://m.me/apexslim
FB Page: https://www.facebook.com/ApexSlim


MAKE AN APPIONTMENT