5 อาหารกระตุ้นการเผาผลาญ แถมมีประโยชน์ต่อสุขภาพ

5 อาหารกระตุ้นการเผาผลาญ แถมมีประโยชน์ต่อสุขภาพ

อาหารลดน้ำหนักไม่เพียงแต่เป็นอาหารที่มีแคลอรี่น้อยเท่านั้น แต่อาหารบางประเภทยังช่วยกระตุ้นการเผาผลาญในร่างกาย ให้สามารถลดน้ำหนักและไขมันได้เร็วขึ้นอีกด้วย แถมประโยชน์จากสารอาหารยังช่วยทำให้สุขภาพของร่างกายด้านอื่น ๆ ของเราดีขึ้นอีกด้วย ว่าแต่อาหารที่ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ แถมมีประโยชน์ต่อสุขภาพแบบนี้จะมีอะไรบ้างตามไปอ่านกันเลย

 

อาหารกระตุ้นการเผาผลาญคืออะไร?

  1. อาหารช่วยสร้างกล้ามเนื้อ อาหารหลาย ๆ ชนิดมีส่วนประกอบของโปรตีนที่สูง ซึ่งโปรตีนนี้เองจะมีส่วนช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อให้เพิ่มมากขึ้น เมื่อกล้ามเนื้อมีมากเท่าไหร่การเผาผลาญก็จะมากขึ้นเท่านั้น 
  2. อาหารช่วยการรักษาระดับน้ำตาลในเลือด เมื่อน้ำตาลในเลือดของคุณพุ่งสูงขึ้น อินซูลินจะไหลเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งช่วยให้ร่างกายช้กลูโคสแทนที่จะเป็นไขมันเป็นพลังงาน จึงสามารถรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ด้วยอาหารที่มีเส้นใยสูง และระบบเผาผลายจะเผาผลาญไขมันได้มากขึ้นอีกด้วย

 

5 อาหารกระตุ้นการเผาผลาญ แถมมีประโยชน์ต่อสุขภาพ

  1. ปลา

ปลาเป็นอาหารไม่เพียงแต่เป็นแหล่งโปรตีนสูงและไขมันต่ำเพียงเท่านั้น แต่ปลายังเหมือนเนื้อสัตว์อื่น ๆ ที่ยังอุดมไปด้วยวิตามินบีที่จำเป็นสำหรับการเปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงาน และปลายังมีโอเมก้า 3 จำนวนมากที่ช่วยเพิ่มการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตและไขมันได้ดีอีกด้วย นอกจากนี้ โอเมก้า 3 ยังช่วยดูแลสุขภาพ ช่วยให้การทำงานของหัวใจดีขึ้นและป้องกันโรคหลอดเลือดสมองได้อีกด้วย

 

  1. เครื่องเทศ

Assortment of winter spices. Free Photo

เครื่องเทศอย่างพริกป่น พริกจาลาปิโน่ พริกฮาบาเนโร พริกไทยดำ อบเชย ยี่หร่า แกง ขิง และขมิ้น เป็นที่รู้จักกันดีว่าช่วยให้ระบบเผาผลาญพลังงานและไขมันได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเครื่องเทศทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น และทำให้เราเผาผลาญพลังงานได้ดีมากขึ้น นอกจากนี้ เครื่องเทศยังช่วยเรื่องการไหลเวียนเลือดและอินซูลินได้ดีอีกด้วย

 

  1. อะโวคาโด

Smoothie with avocado and banana Free Photo

อะโวคาโดแม้จะมีแคลอรีที่สูง แต่อะโวคาโดเป็นแหล่งแอลคาร์นิทีน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่มีบทบาทสำคัญในการเผาผลาญไขมัน ส่งเสริมการลดน้ำหนัก ปรับปรุงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เมื่อรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ นอกจากนี้ ในอโวคาโดยังมีโอเมก้า 3 และสารอาหารต้านการอักเสบอื่น ๆ จะช่วยป้องกันโรคข้อเข่าเสื่อมและโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ได้อีกด้วย

 

  1. เกรปฟรุต

Glass cups of fresh grapefruit juice with slices of fruits placed on wooden board . Free Photo

การกินเกรปฟรุตจะช่วยเพิ่มระดับ HDL ช่วยลดน้ำหนัก ควบคุมอินซูลินได้ โดยการศึกษาพบว่า ระดับอินซูลินของผู้ที่กินเกรปฟรุตต่ำกว่าผู้ที่ไม่ได้กินมาก ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่มากขึ้นถึง 2 ชั่วโมงหลังอาหารแต่ละมื้อ

 

  1. โกโก้

Pieces of chocolate on a wooden table and cacao sprinkled Free Photo

เป็นหนึ่งในอาหารเพื่อสุขภาพที่สุดในโลก โกโก้อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ และได้รับการพิสูจน์ว่าช่วยเรื่องการไหลเวียนเลือดได้ดีขึ้น กระตุ้นเอนไซม์ย่อยอาหาร ระงับความอยากอาหาร และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้ ยังมีแมกนีเซียมสูงช่วยการเผาผลาญให้ดีขึ้นได้อีกด้วย

 

ตัวช่วยการเผาผลาญไขมัน

Vanquish ทำลายเซลล์ไขมันถาวร ใช้พลังงาน RF ปล่อยพลังงานคลื่นความร้อน 45°C ลงไปบนผิว โดยเทคโนโลยีไม่สัมผัสกับผิวเลย ทำให้ปัญหาผลข้างเคียงจะน้อยมาก น้ำตาลในเลือด 

Vanquish (RF 45°C)
เทคโนโลยีการทำลายเซลล์ไขมันแบบถาวร ด้วยเครื่อง Vanquish ได้รับการรับรองประสิทธิภาพและความปลอดภัย จากองค์กรอาหารและยาของประเทศอเมริกา (US FDA Approved ย่อมาจาก Food and Drug Administration)

 

ส่งพลังงานสลายไขมันด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูง RF ซึ่งเป็นพลังงานความร้อนเพื่อทำลายเซลล์ไขมันโดยไม่สัมผัสผิวหนัง ทำให้สามารถส่งความร้อนได้สูงอย่างต่อเนื่อง และคงที่อุณหภูมิที่ 45 องศาเซลเซียส ต่อเนื่องยาวนานเฉพาะเจาะจงที่ตำแหน่งของเซลล์ไขมัน โดยไม่เป็นอันตรายต่อเซลล์เนื้อเยื่ออื่น ๆ ทำให้เซลล์ไขมันถูกทำลายแบบถาร ไม่เจ็บ ไม่มีแผลเปิด ไม่ต้องพักฟื้น

 

ขั้นตอนการทำงาน

  1. เริ่มต้นขั้นตอนการสลายไขมัน โดยการวางหัว Applicator ที่ใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง RF ความร้อนที่ 45 องศาเซลเซียส ใช้เวลาในการทำต่อเนื่อง 40-45 นาที สำหรับหน้าท้อง และต้นขาข้างละ 20-30 นาที 4 ครั้งต่อ สัปดาห์ ในบริเวณที่ต้องการกำจัดไขมัน จากนั้นระบบความร้อนจะเริ่มทำงาน 
  2. เกิดปฏิกิริยาในทันที เซลล์ไขมันมีคุณสมบัติอมความร้อน เมื่อมันสะสมความร้อนต่อเนื่องในอุณหภูมิที่สูง ก็จะทำลายตัวเองแบบถาวร และแตกตัว โดยไม่ส่งผลต่อเนื้อเยื่อบริเวณโดยรอบ
  3. ไขมันถูกกระจัดทิ้ง หลังจากนั้นร่างกายจะขับเซลล์ที่ตายแล้วออกทางระบบน้ำเหลือง และระบบขับถ่ายของเสียตามธรรมชาติของร่างกายเรื่อย ๆ โดยเห็นผลลัพธ์ชัดเจน 3 เดือนโดยประมาณ 

 

ผลลัพธ์

สามารถเห็นผลลัพธ์ 20% หลังการทำ 4 ครั้ง และ 25-35% โดยทำสัปดาห์ละครั้ง ต่อเนื่อง 4-6 สัปดาห

 

ข้อดี

การจะทำลายเซลล์ไขมันอย่างถาวร หรือฆ่าเซลล์ไขมันได้ จะต้องส่งความร้อนไม่น้อยกว่า 45 องศาเซลเซียส อย่างต่อเนื่องเฉพาะเจาะจงที่เซลล์ไขมันเท่านั้น แต่ในอดีตไม่เคยมีเครื่องมือใดที่สามารถส่งพลังงานความร้อนสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส ทำลายเซลล์ไขมันได้โดยผิวหนังไม่ไหม้ หรือไม่เจ็บ 

 

Vanquish เป็นเทคโนโลยีล่าสุดที่สามารถส่งพลังงาน RF ที่อุณหภูมิ 45 องศาเซลเซียส เจาะจงเฉพาะที่ชั้นของเซลล์ไขมันเท่านั้น โดยไม่เป็นอันตรายต่อเซลล์ข้างเคียงอื่น ๆ และไม่สัมผัสผิวหนัง มีส่วนช่วยให้ความร้อนในชั้นไขมันไม่สะท้อนกลับไปกระทบต่อเซลล์เนื่อเยื่ออื่น ๆ ในชั้นบน จึงไม่เกิดแผลไหม้ หรือความเจ็บปวด

 

เหมาะกับใคร

เหมาะกับคนที่ต้องการลดสัดส่วน มีปัญหาไขมันส่วนเกินในบริเวณหน้าท้อง บั้นเอวและต้นขา  

 

👉ปรึกษาลดน้ำหนักและสัดส่วนทักแชท
𝐂𝐎𝐍𝐓𝐀𝐂𝐓 𝐔𝐒
▪️𝐓𝐞𝐥 : 095-102-8585
▪️𝐋𝐢𝐧𝐞 : https://line.me/ti/p/%40APEXslim
▪️𝐅𝐚𝐜𝐞𝐛𝐨𝐨𝐤: https://www.facebook.com/ApexSlim
▪️𝐖𝐞𝐛𝐬𝐢𝐭𝐞 : https://www.apexslim.com/


MAKE AN APPIONTMENT