
5 แอปฯ ฟิตหุ่นปัง ตัวช่วยลดน้ำหนัก
วันนี้ฉันกินไปกี่แคลอรี่แล้วนะ, ฉันจะลดสัดส่วนต้องออกกำลังกายด้วยท่าไหนดี, วันนี้ฉันเบิร์นแคลอรี่ไปกี่กิโลกรัมแล้วนะ
เพียงแค่คิดแต่ไม่ลงมือทำก็ไม่อาจช่วยให้เราลดสัดส่วนได้ เพราะการมีหุ่นดีที่หลายคนใฝ่ฝันช่างเป็นอะไรที่ทำยากเสียเหลือเกิน ไหนจะต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอในการฟิตหุ่นให้กระชับไร้ไขมันส่วนเกิน แต่ว่างานยุ่งจนไม่มีเวลามาคำนวณแคลอรี่ที่กินเข้าไปและไม่รู้เลยว่าต้องเผาผลาญอีกเท่าไหร่ถึงจะพอเพียง หลายคนไม่ต้องกังวลอีกต่อไป วันนี้เรามีตัวช่วยฟิตหุ่นปังง่ายๆ แค่ปลายนิ้วมาฝากกัน
- แคลอรี่ ไดอารี่
เป็นแอปพลิเคชันที่ช่วยในการจดบันทึกแคลอรี่ที่เรากินในแต่ละวัน และสามารถคำนวณแคลอรี่ที่เพียงพอสำหรับความต้องการของร่างกายได้ โดยใช้ข้อมูลจากรายการอาหารที่มีอยู่ในฐานข้อมูลมากกว่า 1,000 ชนิด นอกจากนี้ยังสามารถประเมินปริมาณการออกกำลังกายที่เหมาะสมให้กับเราได้อีกด้วย การเริ่มใช้งานจะต้องกรอกข้อมูล อายุ น้ำหนัก ส่วนสูง กิจกรรมที่เราทำเป็นประจำด้วย รวมไปถึงเป้าหมายการน้ำหนักที่เราต้องการ
จุดเด่น : เป็นแอปพลิเคชันภาษาไทย สามารถใช้ได้ทั้งระบบ iOS และ Android มีรูปการ์ตูนและสีสันสวยงาม เพื่อเพิ่มความน่ารักและไม่ทำให้รู้สึกเครียดกับการจดบันทึกแคลอรี่จนเกินไป แอปจะแจ้งเตือนไม่ให้เราหักโหมมากเกินไป สามารถดูประวัติปริมาณแคลอรี่ที่กินไปในแต่ละวันได้, เลือกความหนักเบาของการลดน้ำหนัก, สแกนบาร์โค้ดของบรรจุภัณฑ์อาหารได้และสามารถเชื่อมต่อกับ Google Fit ได้
- Nike Training Club App
เป็นแอปพลิเคชั่นตัวช่วยออกกำลังกายเสมือนมีเทนเนอร์อยู่ข้างๆ ตัวเรา ซึ่งนำโดย Nike Master Trainer โดยสามารถเลือกรูปแบบในการออกกำลังกายได้มากกว่า 190 แบบ ซึ่งการออกแบบการออกกำลังกายมาจากเทรนเนอร์ระดับโลกของ Nike
จุดเด่น : สามารถใช้ได้ทั้งระบบ iOS และ Android ซึ่งสามารถเลือกระดับความต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็นการเน้นส่วนของหน้าท้อง ลำตัว แขนขา หรือเลือกเป็นแบบกีฬาโยคะ ชกมวย ใช้อุปกรณ์ต่างๆ ตามที่ต้องการได้เลย โดยแอพนี้สามารถเก็บสถิติกิจกรรมต่างๆ ลงในแท็บกิจกรรมบน NTC ตัวโปรแกรมมีบทความแนะนำการออกกำลังกาย และคลิปวีดิโอ สาธิตวิธีการออกกำลังกายอย่างถูกวิธี (ภาษาอังกฤษฟังง่ายชัดเจน)
- Seven – 7 Minute Workout
เป็นแอปฯ ที่สอนออกกำลังกายด้วยวิธีง่ายๆ เหมาะสำหรับคนที่อยากออกกำลังกายแต่มีเวลาแค่สั้นๆ เพราะสามารถทำตามได้ทุกที่ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ โดย 1 เซ็ทจะมี 12 ท่า ใช้เวลา 7 นาที เช่น การก้าวขึ้นลงบันได้ กระโดดตบ แพลงกิ้ง วิดพื้น ซิตอัพ โดยมีเป้าหมาย “ต้องสร้างสุขภาพที่ดีให้ได้ภายใน 7 เดือน”
จุดเด่น : สามารถใช้ได้ทั้งระบบ iOS และ Android มี Community ให้อัปเดตและพูดคุยกับคนอื่นที่ใช้แอปฯ นี้ด้วยกัน ส่วนของการออกกำลังกายจะเป็นคลิป 3d โมเดลจะคอยออกกำลังกายไปพร้อมเรา มีการจับเวลา มีเสียงพากย์คอยช่วยกระตุ้นเรา และมีท่าการออกกำลังกายมากกว่า 200 แบบให้เลือก
- Nike Run club
เหมาะสำหรับคนที่มีรองเท้าวิ่ง Nike เพราะว่าแอปฯ นี้จะช่วยทั้งติดตามการวิ่งด้วย GPS มีเสียงพากย์แนะนำ มีโค้ชช่วยแพลนการออกกำลังกาย หรือใครที่อยากวิ่งตามชาเลนจ์ก็มี แอปพลิเคชั่นคำนวณระยะทางและแคลอรี่ในการวิ่ง โหมดการวิ่งหลายแบบตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงวิ่งระยะยาว สามารถตั้งเป้าได้ว่าในแต่ละเดือนเราจะวิ่งสะสมไปได้ระยะทางเท่าไหร่
จุดเด่น : สามารถจับคุณภาพการวิ่งผู้ใช้ทุกอย่าง เช่น เวลา ระยะทาง, แคล, Cadence และ Gain นอกเหนือการจับเวลาวิ่ง ยังโชว์เส้นทางวิ่งตามแผนที่คล้าย Google map มีกราฟแสดงจังหวะการวิ่งที่ชัดเจน และถ้าใช้กับ Apple Watch ก็จะเช็คอัตราการเต้นของหัวใจได้ด้วย
- My Diet Coach
เป็นแอปพลิเคชั่นที่เหมือนกับการเล่นเกมแต่ได้ดูแลหุ่นไปด้วย เพื่อสร้างแรงกระตุ้นให้เราออกกำลังกายได้ตามนั้น สามารถคำนวนพลังงานที่เผาผลาญจากกิจกรรมที่ทำ กระตุ้นให้ดื่มน้ำ ด้วยการเก็บแต้ม มีกิจกรรมให้เลือกทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การซิทอัพ หรือการกระโดด สามารถจัดเมนูอาหาร แสดงระดับและปริมาณ อาหารที่ควรกิน ควรกินน้อย และไม่ควรกิน มีคำแนะนำเกี่ยวกับสุขภาพ (ถึงจะเป็นภาษาอังกฤษ แต่อ่านเข้าใจง่าย)
จุดเด่น : มีการติดตามความเปลี่ยนแปลงของร่างกายเราทุกๆ วัน ในแต่ละการเปลี่ยนแปลงจะมีเป้าหมายให้เราพิชิตกับคำท้าทายรายวันให้ต้องทำ ไม่ว่าจะเกี่ยวกับอาหารหรือออกกำลังกาย เสมือนกับว่าได้เล่นเกมผ่านด่านไปเรื่อยๆ ทำให้ได้สนุกไปกับการลดน้ำหนักแบบไม่มีเบื่อกันเลยทีเดียว
แต่ถ้าใครอยากหุ่นดีแบบไม่พึ่งแอปฯ เราแนะนำ Emsculpt เทคโนโลยีหนึ่งเดียวในปัจจุบันที่สามารถกำจัดไขมันควบคู่กับการสร้างกล้ามเนื้อซึ่งเป็นส่วนช่วยในการเผาผลาญพลังงาน เพียงแค่นอน 30 นาที
เทคโนโลยีแรกในโลก สร้างกล้ามเนื้อ กำจัดไขมัน
Emsculpt ทำงานโดยการใช้เทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแบบเฉพาะเจาะจง High-In Tensity Focused Electro-Magnetic (HIFEM) ส่งพลังงานเข้าถึงชั้นกล้ามเนื้อ และไขมันใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อกระตุ้นให้กล้ามเกิดการหดเกร็งถึง 20,000 ครั้งต่อการทำทรีตเมนต์ 30 นาที เทียบเท่ากับการยกเวทหนักๆ แล้วทำ Sit up ไปด้วยพร้อมๆ กัน 20,000 ครั้ง ซึ่งในความเป็นจริงเราแทบจะไม่สามารถออกกำลังกายแบบนี้ได้เลย
ทั้งนี้การหดตัวของกล้ามเนื้อจะสามารถสร้างมวลกล้ามเนื้อใหม่ ทำให้มีขนาดใหญ่และแข็งแรงขึ้น สามารถสร้างเส้นใยกล้ามเนื้อ เพื่อเพิ่มจำนวนกล้ามเนื้อให้ทนทานแข็งแรงและอยู่ได้นานขึ้น ส่งผลให้รูปร่างกระชับ มีกล้ามเนื้อหน้าท้องและซิกแพค พร้อมกับการเผาผลาญไขมันและการทำลายเซลล์ไขมัน
ต้องทำบ่อยแค่ไหน ต้องพักฟื้นหรือไม่
Emsculpt ควรทำ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เหมือนกับการออกกำลังกายปกติ โดยทำทรีตเมนต์เพียง 4-6 ครั้งเท่านั้น จะได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว และที่สำคัญไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เมื่อทำเสร็จแล้วสามารถดำเนินกิจกรรมประจำวันต่อได้เลย
*** ผลการวิจัย แสดงถึงความพึงพอใจต่อการรักษามากถึง 96% และโดยเฉลี่ยมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น 16% และไขมันลดลง 19%
APEX SLIM ประสบการณ์กว่า 25 ปี โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเครื่อง EmSculpt จากประเทศอังกฤษด้วยเทคโนโลยี HIFEM นวัตกรรมแรกและนวัตกรรมเดียวที่มีงานวิจัยมากที่สุดถึง 20 งานวิจัยว่ารองรับ Build Muscle & Claim Fat